‘Is This Thing On?’ Bradley Cooper กับวิกฤตวัยกลางคนบนเวที Stand-up ที่อาจต้องใช้ยาแรงกว่านี้

Bradley Cooper กลับมาอีกครั้งในฐานะผู้กำกับกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ ‘Is This Thing On?’ ที่เปิดตัวในงาน New York Film Festival (NYFF) คราวนี้เขาก้าวไปอีกขั้น นอกจากการกำกับแล้ว ยังลงมือควบคุมกล้องด้วยตัวเองเสียด้วย ผลลัพธ์ที่ได้คือเรื่องราวของชายวัยกลางคน (ซึ่ง Cooper ไม่ได้แสดงเอง) ที่เผชิญหน้ากับวิกฤตชีวิตผ่านการแสดง Stand-up Comedy
Will Arnett และ Laura Dern: แสงสว่างในความมืด?
ตามรายงานจาก IndieWire จุดเด่นของ ‘Is This Thing On?’ คือการแสดงอันน่าดึงดูดใจของ Will Arnett และ Laura Dern สองนักแสดงมากฝีมือที่เชื่อว่าน่าจะช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวละครและเรื่องราวได้เป็นอย่างดี Arnett ผู้เป็นที่รู้จักจากบทบาท Gob Bluth ในซีรีส์ ‘Arrested Development’ และ Dern ผู้ได้รับรางวัลออสการ์จาก ‘Marriage Story’ ต่างก็เป็นนักแสดงที่สามารถถ่ายทอดความซับซ้อนทางอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม
ปัญหา: ความยาวและ 'ความหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง'
ถึงแม้จะมีนักแสดงมากความสามารถ แต่บทวิจารณ์เบื้องต้นชี้ให้เห็นว่า ‘Is This Thing On?’ อาจมีปัญหาเรื่องความยาวและ 'ความหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง' หรือ Self-indulgence นั่นเอง ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของการที่ผู้กำกับมีความใกล้ชิดกับเนื้อหามากเกินไป จนอาจทำให้ขาดมุมมองที่เฉียบคมและเป็นกลาง
จริงอยู่ที่ว่าวิกฤตวัยกลางคนเป็นหัวข้อที่น่าสนใจและเข้าถึงได้ง่าย แต่การนำเสนอผ่าน Stand-up Comedy ก็อาจต้องใช้ความกล้าและลูกเล่นที่มากกว่านี้ เพื่อไม่ให้กลายเป็นการระบายความรู้สึกส่วนตัวที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับผู้ชม
Bradley Cooper: จาก ‘A Star is Born’ สู่ ‘Is This Thing On?’
‘Is This Thing On?’ เป็นผลงานกำกับเรื่องที่สามของ Bradley Cooper ต่อจาก ‘A Star is Born’ ภาพยนตร์เพลงรักโรแมนติกที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในปี 2018 และ ‘Maestro’ หนังชีวประวัติของ Leonard Bernstein ที่กำลังจะเข้าฉาย การเปลี่ยนแปลงแนวทางจากหนังรักโรแมนติกสุดซึ้งมาเป็นหนังตลกดราม่าที่สำรวจประเด็น existential crisis แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานและความต้องการที่จะทดลองสิ่งใหม่ๆ ของ Cooper
อย่างไรก็ตาม การที่ ‘Is This Thing On?’ ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ค่อนข้างหลากหลาย แสดงให้เห็นว่าการกำกับภาพยนตร์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และความสำเร็จในอดีตไม่ได้เป็นหลักประกันสำหรับผลงานในอนาคต เราคงต้องรอดูกันต่อไปว่า Cooper จะสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดและพัฒนาฝีมือการกำกับของเขาให้ดียิ่งขึ้นไปอีกได้หรือไม่
แล้วผู้ชมชาวไทยจะได้อะไรจาก ‘Is This Thing On?’
สำหรับผู้ชมชาวไทยที่คุ้นเคยกับหนังตลก Stand-up Comedy อาจจะรู้สึกคุ้นเคยกับรูปแบบการเล่าเรื่องของ ‘Is This Thing On?’ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือการที่หนังสำรวจประเด็นวิกฤตวัยกลางคน ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสังคมตะวันตกเท่านั้น ความรู้สึกเคว้งคว้าง ความไม่แน่ใจในตัวเอง และความกลัวต่ออนาคต ล้วนเป็นสิ่งที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าใจได้
หาก ‘Is This Thing On?’ สามารถนำเสนอประเด็นเหล่านี้ได้อย่างลึกซึ้งและมีอารมณ์ขัน ก็อาจจะเป็นหนังที่สร้างความประทับใจและกระตุ้นให้ผู้ชมได้กลับมาทบทวนชีวิตของตัวเองได้ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ถ้าหนังเน้นไปที่การระบายความรู้สึกส่วนตัวมากเกินไป ก็อาจจะกลายเป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกเฉยๆ และไม่สามารถสร้างความผูกพันกับผู้ชมได้
ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ Cooper ต้องหาจุดสมดุลระหว่างความจริงจังและความตลกขบขัน เพื่อให้ ‘Is This Thing On?’ เป็นหนังที่ทั้งสนุกและมีความหมายในเวลาเดียวกัน
แชร์บทความนี้
ช่วยแชร์เพื่อให้เพื่อนๆ ได้รับข้อมูลดีๆ เช่นนี้ด้วยนะครับ 🎬