ย้อนรอย 'Supergirl' ฉบับ CW: 10 จุดอ่อนที่ถูกมองข้าม… หรือตั้งใจ?

Supergirl ฉบับ CW: ฮีโร่หญิงที่ยังไม่สุดทาง?
จำได้ไหม เมื่อ 10 ปีก่อน เราได้รู้จักกับ 'Supergirl' ฉบับซีรีส์จากช่อง The CW ที่นำเสนอเรื่องราวของ Kara Zor-El ญาติผู้น้องของ Superman ที่หนีรอดจากดาว Krypton และมาใช้ชีวิตบนโลกในฐานะฮีโร่หญิงผู้ทรงพลังในชื่อ Supergirl ตอนนั้นกระแสตอบรับค่อนข้างดี หลายคนชื่นชอบความสดใสและพลังหญิงที่ซีรีส์พยายามสื่อออกมา แต่เมื่อมองย้อนกลับไปในวันนี้ กลับพบว่า 'Supergirl' เวอร์ชั่นนี้มีจุดอ่อนหลายอย่างที่ถูกมองข้ามไป หรือบางที… อาจจะถูกมองข้ามไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
1. สตรีนิยมแบบผิวเผิน: แค่เปลือกนอก?
ประเด็นสำคัญที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือการนำเสนอเรื่องสตรีนิยมที่ดูเหมือนจะฉาบฉวยเกินไป แม้ว่าซีรีส์จะพยายามเน้นย้ำถึงความแข็งแกร่งและความเป็นผู้นำของผู้หญิง แต่หลายครั้งกลับเป็นการแสดงออกที่ดูแข็งทื่อ ไม่เป็นธรรมชาติ และขาดมิติความลึกซึ้ง ตัวละครหญิงหลายตัวถูกลดทอนบทบาทให้เป็นเพียงเครื่องมือในการขับเคลื่อนเรื่องราวของ Supergirl แทนที่จะเป็นตัวละครที่มีชีวิตจิตใจและมีพัฒนาการของตัวเอง
2. ฉากแอ็กชันที่ล้าสมัย: พลังพิเศษที่ไม่สมจริง
สำหรับแฟนๆ ที่คาดหวังฉากแอ็กชันสุดอลังการ อาจต้องผิดหวังกับ 'Supergirl' ในช่วงแรกๆ เพราะฉากต่อสู้หลายฉากดูไม่สมจริงและขาดความน่าตื่นเต้น เอฟเฟกต์พิเศษอาจจะยังไม่ล้ำสมัยเท่าที่ควร ทำให้พลังพิเศษของ Supergirl ดูไม่น่าเกรงขามเท่าที่ควรจะเป็น ถึงแม้ว่าซีซั่นหลังๆ จะพัฒนาขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่ากับซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ ที่มีมาตรฐานสูงกว่า
3. ตัวร้ายที่ขาดเสน่ห์: แรงจูงใจที่ไม่น่าเชื่อ
อีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้ 'Supergirl' ไม่สามารถก้าวข้ามซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไปได้คือ ตัวร้ายที่ขาดเสน่ห์และแรงจูงใจที่ไม่น่าเชื่อ หลายครั้งที่ตัวร้ายถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ Supergirl มีศัตรูให้ปราบเท่านั้น ไม่ได้มีมิติความลึกซึ้งหรือภูมิหลังที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกอินหรือเอาใจช่วยตัวร้ายได้เลย
4. ความสัมพันธ์ที่ซ้ำซาก: สูตรสำเร็จที่ไม่น่าติดตาม
เรื่องความรักความสัมพันธ์ใน 'Supergirl' ก็วนเวียนอยู่กับสูตรสำเร็จเดิมๆ รักสามเส้า, ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน, และการตัดสินใจที่ผิดพลาดซ้ำๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่สามารถคาดเดาอะไรใหม่ๆ ได้เลย
5. การเมืองแบบผิวเผิน: ประเด็นที่ถูกหยิบมาใช้แต่ไม่เจาะลึก
ซีรีส์พยายามที่จะสอดแทรกประเด็นทางการเมืองและสังคมเข้าไปในเนื้อเรื่อง แต่หลายครั้งกลับเป็นการพูดถึงประเด็นเหล่านั้นแบบผิวเผิน ไม่ได้เจาะลึกถึงรากเหง้าของปัญหา หรือนำเสนอทางออกที่สร้างสรรค์
6. บทบาทของ Superman ที่ถูกลดทอน
การมี Superman ในจักรวาลเดียวกัน อาจเป็นดาบสองคม เพราะถึงแม้จะเป็นการสร้างความเชื่อมโยงกับจักรวาล DC แต่ก็ทำให้บทบาทของ Superman ถูกลดทอนลงไปอย่างมาก หลายครั้งที่ Superman ถูกกล่าวถึง แต่ไม่ได้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือ Supergirl
7. การเปลี่ยนแปลงตัวละครแบบกะทันหัน
บางครั้งการเปลี่ยนแปลงบุคลิกหรือแรงจูงใจของตัวละครก็เกิดขึ้นแบบกะทันหันและไม่มีเหตุผลรองรับ ทำให้ผู้ชมรู้สึกสับสนและไม่เข้าใจว่าทำไมตัวละครถึงตัดสินใจทำเช่นนั้น
8. การดำเนินเรื่องที่ช้าและน่าเบื่อ
บางตอนของ 'Supergirl' มีการดำเนินเรื่องที่ช้าและน่าเบื่อ ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเรื่องราวยืดเยื้อและไม่มีอะไรน่าติดตาม
9. การใช้ CGI ที่ไม่สมจริง
ถึงแม้ว่าซีรีส์จะพยายามใช้ CGI เพื่อสร้างภาพที่สวยงาม แต่หลายครั้งกลับกลายเป็นว่า CGI ดูไม่สมจริงและทำให้ฉากนั้นๆ ดูขัดตา
10. ขาดความกล้าที่จะเสี่ยง
สุดท้ายแล้ว 'Supergirl' ขาดความกล้าที่จะเสี่ยงที่จะแตกต่างจากซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่อื่นๆ ทำให้ซีรีส์ติดอยู่กับสูตรสำเร็จเดิมๆ และไม่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างเต็มที่
ถึงแม้จะมีข้อบกพร่องมากมาย แต่ 'Supergirl' ก็ยังคงเป็นซีรีส์ที่มีความหมายสำหรับแฟนๆ หลายคน เพราะเป็นซีรีส์ที่นำเสนอเรื่องราวของฮีโร่หญิงที่แข็งแกร่งและเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทั่วโลก การมองย้อนกลับไปในวันนี้ อาจทำให้เราเห็นจุดอ่อนต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และหวังว่าซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ในอนาคตจะสามารถเรียนรู้จากข้อผิดพลาดเหล่านี้และสร้างสรรค์ผลงานที่ดียิ่งขึ้นไป
แชร์บทความนี้
ช่วยแชร์เพื่อให้เพื่อนๆ ได้รับข้อมูลดีๆ เช่นนี้ด้วยนะครับ 🎬