เจาะลึกหนังสารคดีแรง! 'Under The Flags, The Sun' และ 'Remaining Native' จ่อชิงออสการ์

สารคดีเข้มข้นจ่อชิงออสการ์: ผู้กำกับรุ่นใหม่ท้าทายวงการ
วงการภาพยนตร์สารคดีกำลังจะลุกเป็นไฟ! เมื่อสองผู้กำกับหน้าใหม่เตรียมส่งผลงานเรื่องแรกเข้าประกวดรางวัลออสการ์ประจำปีนี้ ทั้งสองเรื่องนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะต่างก็มีเนื้อหาที่เข้มข้นและสะท้อนประเด็นทางสังคมที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
เรื่องแรกคือ 'Under The Flags, The Sun' ผลงานของผู้กำกับชาวปารากวัย Juanjo Pereira สารคดีเรื่องนี้ได้รับรางวัล FIPRESCI Prize จากเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ซึ่งเป็นการันตีคุณภาพและความกล้าที่จะนำเสนอเรื่องราวที่ละเอียดอ่อน โดยหนังจะพาผู้ชมย้อนกลับไปสำรวจช่วงเวลาตั้งแต่ปี 1954-1989 ซึ่งเป็นยุคที่ประเทศปารากวัยอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการทหารของ พลเอกอัลเฟรโด สเตรสเนอร์ (Alfredo Stroessner)
สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้ อัลเฟรโด สเตรสเนอร์ คือผู้นำที่ปกครองปารากวัยด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จนานกว่า 35 ปี ภายใต้การปกครองของเขา มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นมากมาย การปราบปรามผู้เห็นต่างเป็นไปอย่างเข้มข้น และการทุจริตคอร์รัปชั่นก็แพร่หลายในวงกว้าง สารคดีเรื่องนี้จึงเป็นเหมือนการเปิดแผลในประวัติศาสตร์ที่ชาวปารากวัยหลายคนยังคงเจ็บปวด
สิ่งที่น่าสนใจคือ Juanjo Pereira เลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวนี้ผ่านมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาหลังยุคสเตรสเนอร์ หนังไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่าประวัติศาสตร์ซ้ำ แต่เป็นการตั้งคำถามถึงผลกระทบที่การปกครองแบบเผด็จการมีต่อสังคมปารากวัยในปัจจุบัน และการก้าวข้ามบาดแผลในอดีต
อีกเรื่องที่น่าจับตามองคือ 'Remaining Native' สารคดีที่ยังไม่มีข้อมูลมากนัก แต่คาดว่าจะนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับชนพื้นเมือง (Native Americans) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเด็นที่มักถูกมองข้ามในกระแสหลัก หนังอาจจะสำรวจปัญหาการถูกกีดกัน การสูญเสียวัฒนธรรม และการต่อสู้เพื่อสิทธิของชนพื้นเมือง
การที่สารคดีทั้งสองเรื่องนี้ได้รับการจับตามองในเวทีออสการ์ ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าวงการภาพยนตร์กำลังเปิดรับเรื่องราวที่หลากหลายและกล้าที่จะพูดถึงประเด็นที่ท้าทายมากขึ้น การมีผู้กำกับรุ่นใหม่เข้ามาสร้างผลงานที่มีคุณภาพยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ที่อยากจะใช้ภาพยนตร์เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงสังคม
คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสารคดีทั้งสองเรื่องนี้จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ในเวทีออสการ์ได้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือมันได้จุดประกายความหวังให้กับวงการภาพยนตร์สารคดีและเป็นกระบอกเสียงให้กับผู้ที่ถูกละเลยให้ดังขึ้น
แชร์บทความนี้
ช่วยแชร์เพื่อให้เพื่อนๆ ได้รับข้อมูลดีๆ เช่นนี้ด้วยนะครับ 🎬